ค่าใช้จ่ายในการซื้อและบำรุงรักษาอสังหาริมทรัพย์: ประเด็นสำคัญ
การซื้อและบำรุงรักษาอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้วิธีการที่รอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนที่จะสร้างรายได้จากการให้เช่า สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการลดค่าใช้จ่ายโดยตรงจะส่งผลต่อการเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อจำนวนมากมักมองข้ามเรื่องนี้และพึ่งพาสัญญาผลตอบแทนที่รับประกัน 7-10% ต่อปีเท่านั้น
การประเมินค่าใช้จ่ายและผลกระทบต่อรายได้
เพื่อทำความเข้าใจผลกำไรที่แท้จริงจากการลงทุน จำเป็นต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งหมดและหักออกจากรายได้รวม วันนี้เราจะมาดูประเภทค่าใช้จ่ายหลักๆ และวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้
ค่าใช้จ่ายครั้งเดียว
- ค่าธรรมเนียมการลงทะเบียน: เมื่อจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ที่สำนักงานที่ดิน จะมีการเรียกเก็บภาษีต่างๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของอสังหาริมทรัพย์ รูปแบบกรรมสิทธิ์ และระยะเวลาการเป็นเจ้าของของผู้ขาย จำนวนภาษีนี้มักจะแบ่งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยปกติผู้ซื้อจะจ่ายประมาณ 2-3% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์
- กองทุนซ่อมแซม: บริษัทจัดการจะต้องมีเงินกองทุนสำหรับการซ่อมแซมส่วนกลางที่ไม่คาดคิด การชำระเงินนี้อยู่ที่ประมาณ 400-800 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมักจะชำระครั้งเดียวก่อนจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์
- ค่า Freehold: ในประเทศไทย ชาวต่างชาติสามารถครอบครองอสังหาริมทรัพย์ได้สองรูปแบบ: Freehold (กรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ) และ Leasehold (เช่าระยะยาว) โดยทั่วไป Freehold จะมีราคาสูงกว่าประมาณ 10%
- แพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์: ในตลาดปฐมภูมิ ผู้ซื้อจะได้รับอสังหาริมทรัพย์ที่มีการตกแต่งขั้นพื้นฐาน เฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมสามารถซื้อแยกต่างหากหรือซื้อเป็นแพ็คเกจจากผู้พัฒนา
- มิเตอร์น้ำและไฟฟ้า: บางครั้งผู้พัฒนาอาจกำหนดให้ผู้ซื้อต้องชำระค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำและไฟฟ้า บริการเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 10,000 ถึง 20,000 บาท
ค่าใช้จ่ายรายปี
- ค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง: รวมถึงค่าบำรุงรักษาสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และระบบรักษาความปลอดภัย ค่าบริการคำนวณจากพื้นที่ของอพาร์ตเมนต์และอยู่ที่ประมาณ 60 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
- ค่าบำรุงรักษาสวนและสระว่ายน้ำ: สำหรับวิลล่า ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสวนและสระว่ายน้ำประมาณ 500 ดอลลาร์ต่อเดือน
- ค่าสาธารณูปโภค: ค่าน้ำและไฟฟ้าจะคำนวณตามการใช้งานจริงจากมิเตอร์
- ค่าใช้จ่ายแฝง: ผู้ประกอบการโรงแรมบางรายอาจหักค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการจัดการออกจากรายได้ค่าเช่าก่อนแบ่งปันกับเจ้าของ ซึ่งอาจลดผลกำไรลงอย่างมาก
บทสรุป
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องการการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วน รายได้ที่แท้จริงอาจต่ำกว่าผลตอบแทน 7% ที่สัญญาไว้หากไม่พิจารณาทุกค่าใช้จ่าย ควรใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินจำนวนมากและปกป้องผลประโยชน์ของคุณ